ผ่าตัดต้อกระจก : มองโลกใบใหม่ ชัดเจนกว่าเดิม
เมื่อการมองเห็นที่เคยชัดเจนเริ่มเลือนลางเหมือนมีหมอกมาบดบัง อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังเผชิญกับ “ต้อกระจก” แต่ไม่ต้องกังวล! ปัจจุบันเทคโนโลยีการผ่าตัดช่วยให้คุณกลับมามองโลกได้ชัดเจนอีกครั้งอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว
ต้อกระจกคืออะไร?
ต้อกระจก เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของเลนส์ตา เลนส์ตาขุ่นมัว ซึ่งมักเกิดขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้นหรือการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน ทำให้โปรตีนในเลนส์ตาเสื่อมสภาพและจับตัวเป็นก้อน ซึ่งพบมากในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
รู้ทันสาเหตุเหล่านี้ ช่วยให้คุณป้องกันและดูแลดวงตาได้ดียิ่งขึ้น เพื่อมองเห็นโลกได้อย่างชัดเจนและสดใสในทุกช่วงวัย!
อาการต้อกระจกที่ควรสังเกต
ต้อกระจกในระยะเริ่มแรก อาจไม่มีอาการแสดงใดๆ แต่หากเลนส์ตามีความขุ่นมัวมากขึ้น อาจพบอาการดังต่อไปนี้ได้ตามัว มองเห็นไม่ชัดเจน
การมองเห็นในตอนกลางคืนแย่ลง
ต้องใช้แสงสว่างมากขึ้นในการอ่านหนังสือ หรือ การทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องเพ่งสายตา
มองเห็นแสงไฟกระจาย
สายตาไวต่อแสงจ้า
ระดับค่าสายตาเปลี่ยนบ่อย สายตาสั้นมากขึ้น
มองเห็นสีผิดเพี้ยนไปจากเดิม ภาพที่เห็นมีสีซีดจางหรือมีสีเหลือง
มองเห็นภาพซ้อน
หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและคำแนะนำในการรักษา
การรักษาโรคต้อกระจก
ในปัจจุบันยังไม่มียารับประทานหรือยาหยอดตาที่ใช้ป้องกันและรักษาต้อกระจกให้หายได้ แต่การรักษาต้อกระจกทำได้โดยการผ่าตัดเอาเลนส์แก้วตาที่ขุ่นออก แล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่ โดยเลนส์แก้วตาเทียมเป็นวัสดุที่สามารถใช้งานได้เป็นการถาวรไม่มีวันหมดอายุ หรือไม่ต้องคอยเปลี่ยนใหม่เมื่อเวลาผ่านไป เลนส์แก้วตาเทียมมีหลายชนิดที่เหมาะสมในคนไข้แต่ละราย และมีความปลอดภัยสูง
การผ่าตัดต้อกระจกมี 2 ประเภท คือ
การผ่าแผลเล็กหรือการสลายต้อกระจก (Phacoemulsification) วิธีนี้ จักษุแพทย์จะใช้เครื่องอัลตราซาวน์ โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงมาทำให้เนื้อเลนส์แก้วตาสลายเป็นชิ้นเล็กและดูดออกมา และใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็กสอดผ่านแผลผ่าตัดเข้าไปในลูกตา จึงทำให้มีแผลผ่าตัดเพียง 3 มิลลิเมตร ผู้ป่วยจึงหายเร็วขึ้น ทำให้สายตาชัดเร็วขึ้น ระยะพักฟื้นสั้นลงและกลับไปใช้ชีวิตได้เร็วขึ้น
การผ่าแผลใหญ่หรือการผ่าต้อกระจก (Extracapsular Cataract Extraction หรือ ECCE ) การผ่าตัดวิธีนี้มีการเปิดแผลใหญ่กว่า 10 มิลลิเมตร เพื่อคีบเอาเลนส์ออกมาทั้งชิ้น ทำให้ดวงตามีการกระทบกระเทือนมากกว่า ต้องพักฟื้นนานกว่า ทั้งสองวิธีสามารถใช้เลนส์เทียมเข้าทดแทนเลนส์เดิมที่ผ่าออกมาได้
หากไม่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจกจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อปล่อยให้ต้อกระจกสุกเต็มที่ (Mature Cataract) จะทำให้เลนส์ตาแข็งตัวมาก จนกระทั่งไม่สามารถใช้เทคนิคการผ่าแผลเล็กหรือการสลายต้อกระจกได้ จะต้องทำการผ่าตัดแบบเปิดแผลใหญ่แทน ถ้าต้อกระจกสุกเต็มที่จนกระทั่งถุงหุ้มเลนส์แตก อาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงของดวงตาได้ ถ้ารักษาไม่ทัน อาจทำให้ตาบอดได้เช่นกัน
ชนิดเลนส์แก้วตาเทียมที่ควรเลือกตามความเหมาะสม
เลนส์แก้วตาเทียมมีหลายชนิด เพื่อแก้ปัญหาทางสายตาที่แตกต่างกัน
ทำให้ภาพการมองเห็นที่ได้จากเลนส์แต่ละชนิดแตกต่างกันไปด้วย เรามาดูและเลือกใช้เลนส์แต่ละชนิดทำให้การมองเห็นแตกต่างกันอย่างไร
เลนส์ธรรมดา : มองเห็นชัด 1 ระยะ คือระยะไกล
เลนส์กรองแสง : มองเห็นชัด 1 ระยะ คือระยะไกล สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ดีขึ้น เพิ่มการกรองแสง
เลนส์ Vision Plus : มองเห็นได้ทั้งระยะกลางและระยะไกล เหมาะสำหรับวัยทำงาน สามารถมองคอมพิวเตอร์ได้ชัดขึ้น กรองแสงสีฟ้าได้
เลนส์ Multi Vision Plus : มองเห็นได้ทั้งระยะกลางและระยะไกล สามารถแก้สายตาเอียงได้ กรองแสงสีฟ้าได้
หมายเหตุ*
หลังผ่าตัด การมองเห็นขึ้นอยู่กับค่าสายตาของแต่ละบุคคล อาจจำเป็นต้องใส่แว่นสายตา กรณีอ่านหนังสือตัวเล็กมาก ๆ
เตรียมตัวก่อนผ่าตัดต้อกระจก
ตรวจเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือแพทย์อาจส่งตรวจอื่นๆ ตามความเหมาะสม
วัดค่าเลนส์ทดแทน โดยแพทย์จะใช้เครื่องคำนวณคอมพิวเตอร์มาตรฐานสูงในการตรวจวัด
สำหรับท่านที่มีโรคประจำตัว และมีประวัติแพ้ยา จำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน เพื่อพิจารณาส่งปรึกษาแพทย์เฉพาะทางร่วมดูแลรักษา
หยอดยาป้องกันการติดเชื้อ 1-3 วันก่อนวันผ่าตัด และในวันผ่าตัดให้นำยามาด้วย โดยเก็บยาในตู้เย็นช่องปกติ
ฝึกนอนราบและคลุมโปงประมาณ 30 นาที เนื่องจากขณะผ่าตัด แพทย์จะคลุมผ้าให้ผู้ป่วยลักษณะนี้