เช็กลิสต์ 10 พฤติกรรมและปัจจัยเสี่ยงมีบุตรยาก

จริงอยู่ที่สาวๆ หลายคนอาจยังไม่คิดที่จะแต่งงานหรือมีบุตรในตอนนี้ แต่เรื่องของอนาคตบางทีก็เป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมาย ใครจะไปรู้ว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคุณอาจจะอยากแต่งงาน และอยากมีลูกขึ้นมาก็ได้

ดังนั้น หากคุณไม่อยากเป็นผู้ที่มีปัญหามีบุตรยากหรือตั้งครรภ์ยาก คงจะต้องเริ่มปรับพฤติกรรมที่ทำบ่อยๆ รวมถึงพยายามลดความเสี่ยงต่างๆ ตั้งแต่วันนี้ 

10 พฤติกรรมและปัจจัยเสี่ยงมีบุตรยาก

1. ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากและเป็นประจำ

การดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากๆ และนานเป็นประจำ เป็นการลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้ถึง 50% เลยทีเดียว ดังนั้นสาวๆ ที่ไม่อยากประสบปัญหานี้ไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 ดริ๊งค์ หรือเทียบเท่ากับไวน์ 120 มิลลิลิตร

2. สูบบุหรี่เป็นประจำ

สาวๆ ที่สูบบุหรี่มากกว่าวันละ 10 มวน ส่งผลให้มีลูกยากกว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 3 เท่า เพราะในบุหรี่มีสารพิษมากมายที่เป็นอันตราย และไปลดคุณภาพและประสิทธิภาพของมดลูกซึ่งเป็นที่ฝังของตัวอ่อนอีกด้วย ใครที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์จึงควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรืออยู่ในที่ที่มีควันบุหรี่ นอกจากนี้แล้วบุหรี่ยังทำให้ผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (วัยทอง) เร็วกว่าปกติถึง 2 ปี และทำให้กระดูกผุ พลุน หรือเปราะเร็วขึ้นอีกด้วย

3. อายุที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ

อายุที่มากขึ้น ฮอร์โมน และความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายตามวัย ทำให้โอกาสในการมีลูกของหญิงที่อายุสามสิบปีขึ้นไปจะค่อยๆ ลดลง นอกจากนี้การตั้งครรภ์เมื่ออายุมากๆ ยังเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพของเด็กในครรภ์สูงขึ้น และเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น ดาวน์ซินโดรม โรคตับโต ม้ามโต โรคปากแหว่งเพดานโหว่ได้มากขึ้น ทั้งนี้การฝากครรภ์จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้

4. ความเครียด

หลายคนอาจมีความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจ และยังกระทบมาถึงการมีลูกยากอีกด้วย เพราะฮอร์โมนจากความเครียดจะรบกวนการทำงานของฮอร์โมนในระบบสืบพันธุ์ ส่งผลให้เกิดภาวะไม่ตกไข่ และทำให้ไข่เจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ อีกทั้งยังทำให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วฝังตัวที่มดลูกได้ยากขึ้นอีกด้วย

5. กินอาหารไม่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารแบบเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวัน โดยเฉพาะถ้าเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ด้วยแล้ว นานวันเข้าก็จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนเพียงพอ ซึ่งมีผลต่อภาวะการมีบุตรยากด้วย ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะควรทานผักและผลไม้ที่ไม่หวานเกินไปให้บ่อยขึ้น

6. ปล่อยให้มีปัญหาน้ำหนักตัวเกินหรือผอมเกินไป

หลายคนอาจไม่รู้ว่า การมีน้ำหนักตัวขึ้นๆ ลงๆ น้ำหนักมากหรือน้อยเกินไป จะทำให้ร่างกายปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมต่อการตั้งครรภ์ได้ยากขึ้น และยังส่งผลให้ความสามารถในการเจริญพันธุ์ลดลง แถมยังเสี่ยงต่อการแท้งง่ายอีกด้วย มีการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานต้องใช้เวลาในการตั้งครรภ์นานเป็น 4 เท่า ในขณะที่ผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ใช้เวลามากเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวปกติ

7. ดื่มกาแฟเกินวันละสองแก้ว

การที่ร่างกายได้รับคาเฟอีนประมาณ 300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับกาแฟชงเอง 3 ถ้วย จะทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ยากหรือมีบุตรยากมากขึ้น เป็นการลดโอกาสการตั้งครรภ์กว่า 25% และหากดื่มกาแฟ 3 แก้วขึ้นไปในทุกๆ วัน ยังเสี่ยงต่อภาวะแท้งบุตรมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มอีกด้วย

8. ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ

จริงอยู่ที่การดื่มน้ำอัดลมทำให้รู้สึกสดชื่น แต่ในด้านคุณค่าทางโภชนาการแล้วแทบไม่มีเลย การดื่มติดต่อกันทุกๆ วัน หรือบ่อยๆ ยังทำให้เสี่ยงต่อการมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อันนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวาน และมีแต่จะทำให้มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ซึ่งส่งผลต่อการมีบุตรยาก

9. ไม่ออกกำลังกาย

อยากมีสุขภาพดีและแข็งแรงต้องเริ่มจากการออกกำลังกาย ซึ่งนอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ ยังช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศและการเจริญพันธุ์ การทำงานของหัวใจ และระดับพลังงานได้อย่างดีเยี่ยม การไม่ออกกำลังกายเลยทำให้ร่างกายลดประสิทธิภาพทุกๆ อย่าง รวมถึงโอกาสในการตั้งครรภ์

10. ร่างกายได้รับสารเคมีต่างๆ มากเกินไป

การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือมลพิษมากๆ เช่น แถบนิคมอุตสาหกรรม โรงงาน ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการสูดดมหรือการทานอาหารที่อาจปนเปื้อนสารเคมี เช่น สารโลหะหนักอย่างตะกั่ว เมื่อสารเคมีสะสมในร่างกายมากๆ ก็จะส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ ทำให้เซลล์สืบพันธุ์ทำงานผิดปกติ