ครรภ์เป็นพิษส่งผลอย่างไร อาการแบบไหนที่ต้องระวัง?

ครรภ์เป็นพิษ เป็นภาวะความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ทั้งระหว่างการตั้งครรภ์หรือแม้แต่หลังคลอดแล้ว ภาวะนี้พบได้ราวร้อยละ 5-8 ของการตั้งครรภ์ หากเกิดครรภ์เป็นพิษ คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีความดันโลหิตสูง ตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ โดยอาการมีทั้งแบบที่เป็นน้อยๆ หรือในบางรายก็รุนแรงมากถึงขนาดทำให้เสียชีวิตได้

ภาวะครรภ์เป็นพิษนี้ มักจะเกิดหลังการตั้งครรภ์ตั้งแต่ 20 สัปดาห์ไปจนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด การฝากครรภ์และเข้ารับการตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอจะทำให้ทราบอาการของโรคนี้ตั้งแต่เริ่มแรก แพทย์จะดูแล รักษา เพื่อลดความรุนแรงและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

สาเหตุของครรภ์เป็นพิษ?

ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่าอาการครรภ์เป็นพิษมักเกิดในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แรก โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งครรภ์แฝด หรือมีโรคบางอย่างอยู่ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดครรภ์เป็นพิษ?

  • สตรีตั้งครรภ์แรก หรือตั้งครรภ์แรกกับคู่สมรสใหม่
  • สตรีตั้งครรภ์ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี หรือมากกว่า 35 ปี
  • ระยะห่างของการตั้งครรภ์ ห่างจากครรภ์ก่อนมากกว่า 10 ปี

วิธีการปฎิบัติตัวเมื่อมีอาการครรภ์เป็นพิษ

  • พักผ่อนให้มาก หมั่นวัดความดันอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์แนะนำ
  • สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว หรือจุกแน่นลิ้นปี่
  • พบแพทย์ตามนัด ซึ่งแพทย์จะนัดตรวจบ่อยขึ้นกว่าการตั้งครรภ์ปกติ
  • ถ้ามีอาการมาก แพทย์อาจให้นอนโรงพยาบาล ให้ยาป้องกันชัก และยาลดความดันโลหิต
  • ในรายที่มีอาการรุนแรง แพทย์อาจจะให้ยุติการตั้งครรภ์

อาการครรภ์เป็นพิษแบบไหน…ที่ต้องรีบไปพบแพทย์?

  • ตามัว
  • ปวดศีรษะ
  • จุกแน่นลิ้นปี่
  • ตรวจพบความดันโลหิตสูง
  • ลูกดิ้นน้อยลง
  • มีเลือดออกจากช่องคลอด
  • ท้องแข็งต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
  • น้ำหนักเกินอย่างรวดเร็ว

ครรภ์เป็นพิษทำให้มีภาวะแทรกซ้อนทั้งกับมารดาและทารก

  • มารดา อาจเสียชีวิต โดยมักเกิดจากการมีเลือดออกในสมองเพราะหลอดเลือดในสมองแตก เกิดอาการชัก ตาบอด ซึ่งอาจเป็นอาการชั่วคราว
  • ทารก อาจมีภาวะเจริญเติบโตช้าในครรภ์ และการที่มารดามีภาวะน้ำคร่ำน้อย จะส่งผลให้ทารกถูกกดเบียดทับจากน้ำหนักตัวของมารดา ทารกจึงมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ หรือมีการคลอดก่อนกำหนดได้

ปรึกษาแพทย์


    Related Health Blogs

    Related Doctors