ฟัน คืออวัยวะสำคัญที่ช่วยให้การใช้ชีวิตของเราเป็นไปอย่างปกติสุข เพราะฟันที่แข็งแรงจะทำให้เราบดเคี้ยวอาหารได้ดี สามารถส่งอาหารเข้าไปให้ร่างกายเผาผลาญได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนส่วนใหญ่คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทั้งชีวิตของเรานั้นจะมีฟันได้แค่ 2 ชุด ชุดแรกเรียกว่า “ฟันน้ำนม” และชุดที่สองที่จะอยู่กับเราไปจนแก่ เราเรียกเขาว่า “ฟันแท้”
ฟันน้ำนม ฟันชุดแรกของชีวิต
“ฟันน้ำนม” จะเริ่มต้นซี่แรกอยู่กับเด็กตั้งแต่อายุประมาณ 6 เดือน จนเมื่ออายุ 2 ขวบครึ่งฟันชุดแรกก็จะขึ้นครบ 20 ซี่ ลักษณะของฟันน้ำนมจะมีสีขาวคล้ายน้ำนม มีขนาดเล็ก โดยส่วนใหญ่ฟันซี่แรกจะเริ่มขึ้นจากฟันหน้าซี่กลางล่างของลูกน้อย และเมื่อฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกน้อยมาพบทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในดูแลสุขภาพฟัน และปลูกฝังการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้กับลูก เพราะฟันน้ำนมคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้การออกเสียงของเด็กมีความชัดเจน ช่วยทำให้ฟันแท้ที่จะขึ้นในอนาคตขึ้นในตำแหน่งที่ถูกต้อง และลดปัญหาของฟันแท้ที่จะห่าง ซ้อน เก ได้
ฟันแท้ ฟันชุดที่สอง เป็นชุดสุดท้ายจึงต้องดูแลให้ดีเป็นพิเศษ
เมื่อถึงอายุ 6 ปี ฟันน้ำนมซี่แรกมักจะหลุดออกแล้วฟันแท้ซี่แรกก็จะเริ่มขึ้น และค่อย ๆ ทยอยขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนมไปเรื่อย ๆ จนครบ 28 ซี่ เมื่ออายุ 18 ปี โดยลักษณะของฟันแท้จะมีสีขาวอมเหลือง ขนาดของฟันแท้จะใหญ่กว่าฟันน้ำนม เมื่อฟันแท้ขึ้นแล้วเราต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดี เพราะฟันแท้คือฟันชุดสุดท้ายของเรา ถ้าดูแลไม่ดีฟันอาจจะจากเราไปก่อนเวลาอันควร
ทั้งนี้ การดูแลฟันที่ดีที่สุดคือ การแปรงฟันให้ถูกวิธีตั้งแต่มีฟันน้ำนมจนเปลี่ยนมาเป็นฟันแท้ และต้องหมั่นพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน ทันตแพทย์จะได้ทำการตรวจประเมินสุขภาพฟัน ซึ่งอาจทำการเอกซเรย์ฟันทั้งปากเพื่อวางแผนกการดูแลรักษาให้มีฟันที่ดีต่อไป
การเอกซเรย์ OP หรือ ทำการเอกซเรย์ด้วยฟิล์มในช่องปากมีประโยชน์อย่างไร
การเอกซเรย์ (ORTHOPANTOMOGRAM) เป็นหนึ่งในขั้นตอนของการวินิจฉัย และวางแผนการรักษาสุขภาพช่องปากให้มีความแม่นยำมากขึ้นของทันตแพทย์ เพราะการเอกซเรย์จะช่วยในการแสดงผลของฟัน อวัยวะส่วนต่าง ๆ ในช่องปากที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอกหรือด้วยตาเปล่า เช่น กระดูกขากรรไกร กะโหลกศีรษะ หรือลักษณะของฟันแต่ละส่วน เช่น ตำแหน่งของฟันคุด ความโค้งงอ ความยาวของรากฟัน ความเสียหายของฟัน รอยผุของฟันด้านประชิด ทั้งยังมีประโยชน์ต่อการพิจารณาถึงการจัดฟันด้วย
การดูแลฟันแท้อย่างถูกวิธี
- แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพราะเศษอาหารเป็นสาเหตุของคราบหินปูนและฟันผุ ที่สำคัญต้องแปรงให้ถูกวิธี ดังนี้
– แปรงฟันด้านนอก วางขนแปรงบริเวณขอบเหงือกในมุม 45 องศา ขยับแปรงไปมา ปัดขนแปรงฟัน ถ้าเป็นฟันล่างให้ปัดขี้น และถ้าเป็นฟันบนให้ปัดลงล่าง
– แปรงฟันด้านใน วางขนแปรงบริเวณขอบเหงือก โดยถ้าเป็นฟันล่างให้ปัดขึ้น และถ้าเป็นฟันบนให้ปัดแปรงลงล่าง
– แปรงฟันด้านบดเคี้ยว วางแปรงให้หน้าตัดขนแปรงอยู่ด้านบนของฟันบดเคี้ยว ถูไปมาในแนวหน้าหลังทั้งฟันบนและฟันล่าง
– แปรงลิ้น การแปรงลิ้นเป็นการช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์ ช่วยลดการเกิดกลิ่นปาก - หมั่นใช้ไหมขัดฟัน โดยดึงไหมขัดฟันยาวประมาณ 45 ซม. พันที่นิ้วกลางทั้ง 2 ข้าง จากนั้นดึงไหมขัดฟันให้ตึงแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือจับไหมขัดฟัน แล้วค่อยๆ เลื่อนไหมลงไประหว่างซอกฟัน โอบไหมรอบตัวฟันเลื่อนลงใต้เหงือก และเคลื่อนขึ้นไปปลายฟัน ทำซ้ำ 4-5 ครั้ง
- ใช้น้ำยาบ้วนปาก ช่วยขจัดเศษอาหารชิ้นเล็ก ๆ ที่ตกค้างได้ โดยน้ำยาบ้วนปากจะช่วยทำลายแบคทีเรียแบบอ่อน ๆ เท่านั้น การบ้วนปากที่ถูกวิธี คือต้องกลั่วน้ำยาบ้วนปากจากระพุ้งแก้มให้น้ำยาเคลื่อนจากซ้ายไปขวา จากด้านหน้าไปด้านหลัง
- เข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน