มะเร็งตับ โรคร้ายอันดับ 1 ที่ผู้ชายต้องระวัง

ความน่ากลัวของมะเร็งตับก็คือ นอกจากจะเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในเพศชาย และเป็นอันดับ 2 ในเพศหญิงแล้ว มะเร็งตับยังเป็นมะเร็งที่มีการดำเนินโรคเร็วมาก คือผู้ป่วยที่ตรวจพบมะเร็งตับมักจะมีโอกาสเสียชีวิตภายใน 3-6 เดือนเท่านั้น

มะเร็งตับเกิดจากสาเหตุอะไร?

มะเร็งตับนั้นสามารถเกิดได้ 2 ทางคือ เกิดกับตับโดยตรง และชนิดที่ลุกลามมาจากมะเร็งของอวัยวะอื่น เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ และทวารหนักที่กระจายไปยังตับ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งตับ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบชนิดบี พยาธิใบไม้ในตับ สารเคมีต่าง ๆ ยารักษาโรคบางชนิด ยาฆ่าแมลง สารพิษที่เกิดจากเชื้อรา สารเคมีที่เกิดจากอาหารหมักดอง สุรา ฯลฯ ภาวะทุพโภชนาการ ภาวะภูมิต้านทานร่างกายต่ำ คุณสมบัติทางพันธุกรรม และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ล้วนเป็นสาเหตุที่มีส่วนในการเกิดโรค

อาการแรกเริ่มของมะเร็งตับ

• เบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องผูก
• อ่อนเพลีย น้ำหนักลด และมีไข้ต่ำ
• ปวดหรือเสียดชายโครงด้านขวา อาจคลำก้อนได้
• ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโตและบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง

การตรวจวินิจฉัย

แน่นอนว่าการตรวจพบและรักษามะเร็งตับได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มมักได้ผลดีกว่า แต่ปัญหาก็คือมะเร็งตับระยะแรกเริ่มก็มักไม่ปรากฏอาการ ดังนั้นผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจึงควรปรึกษาแพทย์และตรวจหาความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถตรวจได้ดังนี้

• ตรวจโดยเจาะเลือดหาระดับของสารแอลฟาฟีโตโปรตีน ซึ่งเป็นสารที่มะเร็งตับชนิดเซลล์ตับผลิตออกมา
• ตรวจดูก้อนในตับโดยใช้อัลตราซาวด์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์คลื่นแม่เหล็ก MRI หรือฉีดสีเข้าเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงตับ

การรักษามะเร็งตับ

1. การผ่าตัด เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่หวังผลในการหายขาดได้ แต่ใช้ได้ในผู้ป่วยที่ก้อนยังไม่โตมาก และการทำงานของตับยังดีอยู่
2. การฉีดยาเคมีและสารอุดตันเข้าเส้นเลือดแดงที่ไปหล่อเลี้ยงก้อนมะเร็ง ทำให้ก้อนยุบลง (Chemoembolization)
3. การฉีดยา เช่น แอลกอฮอล์ เข้าก้อนมะเร็ง โดยผ่านทางผิวหนัง ใช้ในก้อนมะเร็งเล็ก ๆ ซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถผ่าตัดได้
4. การใช้ยาเคมี ใช้เพียงเพื่อบรรเทาอาการ แต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
5. การฉายแสง ใช้เพื่อบรรเทาอาการของมะเร็ง
6. การใช้วิธีการผสมผสาน

ป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นมะเร็งตับ ต้องทำไง

1. ไม่รับประทานอาหารที่มีเชื้อรา ที่ไหม้หรือรมควันรวมทั้งอาหารที่เตรียมแล้วเก็บค้างคืน เพราะอาจมีเชื้อราปะปนอยู่
2. ไม่รับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ปลาดิบ ก้อยปลา เพราอาจจะทำให้เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ หรืออาหารที่หมัก เช่น ปลาร้า ปลาเจ่า แหนม ฯลฯ เพราะมีสารไนโตรซามีน ซึ่งทำให้เป็นโรคมะเร็งตับได้
3. ควรรับประทานอาหารที่สะอาด และปรุงสุดใหม่ ๆ
4. ควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ในผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อและยังไม่มีภูมิคุ้มกัน
5. ตรวจเช็คสุขภาพประจำปี