เรียกได้ว่าเป็นกระแสการดูแลสุขภาพที่ติดลมบนอยู่ไม่น้อยกับ “Intravenous Therapy” หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “Vitamin Drip”, “IV Drip” หรือ “วิตามินบำบัด” หนึ่งเทรนด์ทางลัดเพื่อผิวพรรณสดใส สุขภาพดี ที่จะช่วยตอบโจทย์ให้กับบรรดาสายเฮลท์ตี้ที่ไม่นิยมบริโภควิตามินแบบเม็ด แต่เอ๊…หลาย ๆ คนอาจจะยังสงสัยว่าวิตามินบำบัดนี่ดียังไง แล้วจะมีผลข้างเคียงหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ!
Q: Vitamin Drip หรือ IV Drip คืออะไร?
A: Vitamin Drip คือ การให้วิตามินที่เปลี่ยนจากการกินผลไม้หรือทานอาหารเสริม มาเป็นการนำวิตามินเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำโดยตรง ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินได้ดีกว่า จึงช่วยให้สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวได้รวดเร็วกว่า กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดีกว่าการทาน โดยไม่มีสารตกค้าง และไม่เกิดผลข้างเคียงต่อระบบร่างกาย
Q: การทำ Vitamin Drip มีประโยชน์อะไรบ้าง?
A: การให้ Vitamin Drip จะเป็นการให้วิตามินที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) ผ่านทางหลอดเลือดดำ ซึ่งสารตัวนี้ จะมีส่วนช่วยในการต่อต้านความเสื่อมของผิวที่เกิดขึ้นจากอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์มีความเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้ประโยชน์ในแง่ของสุขภาพภายใน ช่วยลดอาการเมื่อยล้า อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ และยังช่วยรักษาระดับวิตามินในร่างกายให้สมดุล กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Q: ต้องรับ Vitamin Drip บ่อยแค่ไหน ถึงจะเห็นผล?
A: การ Drip Vitamin ควรทำทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นผลในเรื่องของผิวที่กระจ่างใสขึ้นเมื่อทำต่อเนื่อง 4-6 ครั้งขึ้นไป แต่สำหรับอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย จะเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก โดยหลังรับการ Drip Vitamin ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญคือต้องทาผลิตภัณฑ์กันแดดทั้งสำหรับผิวหน้า และผิวกาย โดยเลือกที่มี SPF 50+ ขึ้นไป เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการ Drip Vitamin
Q: ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนที่จะเข้ารับการ Drip Vitamin?
A: ขั้นตอนแรกเลยแนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อพูดคุยถึงความต้องการ โรคประจำตัว และปัญหาผิวที่เป็นอยู่ แพทย์จะประเมินจากปัจจัยร่างกายของคนไข้ และเลือกสูตรวิตามินให้เหมาะสมกับคนไข้นั้น ๆ โดยการ Drip Vitamin เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
Q: หากเลิก Drip จะมีผลเสียหรือไม่?
A: การเลิก Drip Vitamin ไม่เกิดผลเสียใด ๆ ต่อร่างกาย เพราะตัววิตามินที่ใช้สามารถถูกขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระได้โดยไม่มีการสะสมหรือตกค้างในร่างกาย มีเพียงแค่ความกระจ่างใสของผิวที่จะลดลงบ้างเท่านั้น